Skip to content

‘ซินจุย’ มัมมี่สตรีชนชั้นสูงของจีน ที่สมบูรณ์ที่สุดแม้ผ่านเวลามานานกว่า 2,000 ปี

ซินจุย

มัมมี่ คือกระบวนการรักษาสภาพของศพโดยการดองหรือแช่ในน้ำยาพิเศษ โดยมัมมี่ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือกรรมวิธีการทำมัมมี่ของอารยธรรมอียิปต์โบราณ โดยวิธีการทำมัมมี่หรือการอาบน้ำศพก่อนที่จะนำไปพันด้วยผ้าก็คือหารนำเอาน้ำยาอาบศพในรูปแบบต่าง ๆ มาใช้ เช่น น้ำมันงา, Balsam ยางที่สกัดจากต้นอะคาเซีย (Acacia), และยางสนที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียช่วยป้องกันไม่ให้ศพเน่าเปื่อย

ซึ่งที่น่าตกใจก็คือวิธีการรักษาสภาพศพหรือมัมมี่นั้น ไม่ได้มีการทำขึ้นมาเฉพาะในอารยธรรมอียิปต์โบราณเท่านั้น แต่ยังอีกหลายพื้นที่ซึ่งเกิดธรรมเนียมในรูปแบบนี้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นอารยธรรมจีนในอดีตก็พบว่ามีการรักษาสภาพของศะด้วยวิธีการต่าง ๆ เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดจากการที่มนุษย์ทำขึ้นมา หรือเป็นความบังเอิญที่ร่างของผู้เสียชีวิตไปอยู่ในสภาพอากาศ หรือพื้นที่ซึ่งเอื้อต่อการรักษาสภาพของศพเอาไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ภาพจำลองสุสานที่พบที่หม่าวังตุย

‘ซินจุย’ มัมมี่สตรีชนชั้นสูงของจีนที่สมบูรณ์ที่สุด

เรียกได้ว่าพลิกหน้าประวัติศาตร์อีกหนึ่งฉบับของประเทศสจีน รวมไปถึงหลักฐานชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สมบูรณ์มากที่สุดชิ้นหนึ่ง ซึ่งมันจะช่วยทำให้มนุษย์เราสามารถศึกษา และวิเคราะห์เรื่องราว ตลอดจนความเป็นมาของมนุษย์ในอดีตได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เมื่อมีการค้นพบมัมมี่สตรีชนชั้นสูงของจีน ที่ภายหลังมีการเรียกว่า ‘ซินจุย’ ขึ้นเมื่อประมาณปี 1972

โดย ‘ซินจุย’ ถูกค้นพบจากเนินดินธรรมดาที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีร่องรอยของประวัติศาสตร์ รวมไปถึงสุสานที่มีอายุหลายพนัปีซ่อนอยู่ หลังจากที่มีการขุดค้นเนินดินดังกล่าวก็ทำให้ทั่วทั้งโลกได้พบกับหน้าตาของสุสานขนาดใหญ่ในยุคราชวงศ์ฮั่นที่ถูกฝังกลบอยู่ใต้ดินทางทิศตะวันออกชานเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ซึ่งภายในสุสานมีการค้นพบวัตถุโบราณที่ขุดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ตราประทับ ภาพเขียน ม้วนผ้าที่มีอักษรบันทึก รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้มากมาย ที่ในปัจจุบันล้วนเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญซึ่งถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี
และถึงแม้การขุดค้นพบสุสานตลอดจนวัตถุโบราณที่จำนวนมากภายใน จะสร้างความตื่นตกใจและความตกตะลึงให้กับหน่วยงามที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้คนทั่วโลกที่จับตามองข่าวคราวการค้นพบครั้งสำคัญครั้งนี้เป็นจำนวนมากแล้ว มันกลับมีสิ่งที่ทำให้ทั่วโลกจะต้องตกใจมากเข้าไปอีก เมื่อภายในมีการเก็บรักษาโลงปริศนาเอาไว้โลงหนึ่ง ซึ่งลักษณะของโลงศพโบราณนี้ทำจากไม้ มีความของตัวโลงประมาณ 4 เมตร สูง 1.5 เมตร เมื่อสังเกตดูจะเห็นได้ว่าโลงทำขึ้นจากไม้จำนวนมากประกอบกัน มีทั้งไม้ชิ้นเล็ก และไม้ชิ้นใหญ่สลับกันไป โดยน้ำหนักรวม ๆ อาจจะมากถึง 500 กิโลกรัมเลยทีเดียว

บริเวณ

เมื่อทีมงานและผู้ที่เกี่ยวข้องได้พบกับโลงไม้ปริศนาจากนั้นไม่นานทั่วทั้งโลกก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง เนื่องจากสิ่งที่ถูกบรรจุอยู่ภายในคือ ‘ร่างของหญิงสาวปริศนา’ ที่นอนหลับไหลภายใต้สุสานแห่งนี้มานานหลายพันปี แทนที่จะเป็นร่างของชายผู้สูงศักดิ์ตามค่านิยมในสมัยโบราณที่มักจะมีการรักษาสภาพของศพชายผู้สูงศักดิ์ หรือกษัตริย์ผู้ครองแผ่นดินนั่นเอง

โดยร่างของหญิงปริศนาผู้นี้ถูกแช่อยู่ในโลงที่บรรจุไว้ด้วยของเหลวไร้สีภายในโลงไม้ (หลังจากมีเกิดเปิดโลงออกของเหลวดังกล่าวได้แปรสภาพเป็นสีน้ำตาลในภายหลัง คาดว่าอาจจะเป็นส่วนผสมของปรอทและกรดอะมิโน) ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ในทันทีว่าสิ่งที่เห็นนั้นคืออะไร และจากการสันนิษฐานได้มีการกล่าวว่าเจ้าของเหลวปริศนาที่ว่านี่เอง

ที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สภาพของร่างภายในโลงดูสมบูรณ์ราวกับคนที่เพิ่งเสียชีวิตมาไม่นาน เพราะผิวหนังของซินจุยยังคงความยืดหยุ่น ข้อต่อต่าง ๆ ก็ยังคงสามารถขยับเขยื้อนได้ ไม่เพียงเท่านั้นจากการผ่าชันสูตรเพิ่มเติมก็ยังพบเส้นใยโปรตีนอยู่ ราวกับว่าเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นานเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการค้นพบมัมมี่ที่สร้างความฉงนสงสัยให้กับผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยเลยทีเดียว

ต่อมาเมื่อมีการใช้เทคโนโลยีบวกกับข้อมูลต่าง ๆ เข้ามาใช้ในการศึกษาปริศนาของซินจุย จึงสามารถระบุตัวตนของหญิงสาวที่นอนหลับไหลในสุสานแห่งนี้ได้ ว่าคือร่างของสตรีผู้สูงศักดิ์ซึ่งเป็นภรรยาของลี่ชังอัครมหาเสนาบดีคนสำคัญในช่วงสมัยนั้นที่มีชื่อว่า ‘ซินจุย’ ขณะเสียชีวิตมีอายุราว 50 ปี คาดการณ์ว่าสาเหตุหลักของการเสียชีวิตคืออาการถุงน้ำดีอักเสบทำให้ไปกระทบกับโรคหัวใจจนส่งผลให้เธอเสียชีวิต

จากเรื่องราวของร่างปริศนาที่ถูกขุดพบขึ้นในสุสานแห่งนี้ อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องราวที่น่ากลัว และน่าฉงนสงสัยในมุมมองของใครหลายคน แน่นอนว่าในความรู้สึกของตัวผู้เขียนเองก็คิดว่าเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์ใจไม่น้อย ที่ใต้ดินภายในสุสานซึ่งลึกลงไปกว่า 20 เมตร จะทำให้เราสามารถขุดค้นพบร่างของซินจุยที่สภาพแทบจะไม่ได้ต่างจากร่างของผู้เสียชีวิตในยุคสมัยนี้เลย แม้จะผ่านกาลเวลามายาวนานนับ 2,000 ปี

ซึ่งการค้นพบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวของการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่จะทำให้เราสามารถบอกเล่าวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้นผ่านซินจุยได้ ไม่เพียงเท่านั้นมัมมี่ซินจุยนี้ก็ยังเป็นแหล่งข้อมูลในการศึกษาองค์ความรู้จากคนโบราณ เกี่ยวกับการรักษาสภาพศพ ที่ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบจนแทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือร่างของหญิงสาวที่เสียชีวิตมาแล้วหลายพันปี

ดูเพิ่ม https://mgronline.com/china/detail/9610000034998