ท่ามกลางบรรยากาศงานศพอันละเอียดอ่อนและแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาร่วมงานกันอย่างมากมายแต่ประสบการณ์ร่วมงานในลักษณะนี้ที่ผ่านมาช่างน้อยนิดเสียเหลือเกินคุณจะต้องเตรียมพร้อมอย่างไรจึงจะไร้ข้อตำหนิจากแขกหรือเจ้าภาพ วันนี้เราก็มีข้อแนะนำดี ๆ จากผู้มีประสบการณ์มาฝากกัน
การเตรียมพร้อม
รู้จักเลือกพวงหรีดตามสถานะทางสังคมของผู้เสียชีวิต
เมื่อมีกำหนดการที่จะไปร่วมงาน ก่อนอื่นเราต้องใช้เวลากับการเลือกซื้อแบบหรีดที่ถูกต้องเสียก่อน ซึ่งการเลือกนั้นที่ดีควรเริ่มจากสังเกตสถานะทางสังคมของผู้เสียชีวิตเป็นอันดับแรก โดยจะแบ่งออกได้ 3 แบบ คือ วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ หรือ ผู้มีฐานะ นั่นเอง โดยเราจะต้องเลือก เฉดสี ของพวงหรีดให้เหมาะสมกับสถานะของผู้เสียชีวิตเหล่านี้ เพราะสีแต่ละสีจะถ่ายทอดและแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ไม่เหมือนกัน
สำหรับ เด็ก หรือ วัยเยาว์
วัยเด็กเป็นวัยที่มีความร่าเริงแจ่มใสและมีความบริสุทธิ์ ดังนั้นการเลือกพวงหรีดในผู้เสียชีวิตวัยนี้ ควรจะเน้นไปที่แบบมีสีสดใส หรืออาจแทรกสีขาวเข้าไปด้วย ซึ่งสำหรับเด็กผู้หญิงนั้นส่วนใหญ่จะนิยมใช้สีชมพู ส่วนเด็กผู้ชายจะใช้สีฟ้าเป็นสัญลักษณ์
สำหรับ ผู้ใหญ่
ผู้เสียชีวิตที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ เราควรที่จะเน้นแสดงออกถึงความเคารพให้มากที่สุด ดังนั้นโทนสีขาว จึงกลายมาเป็นแบบที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมกว่าสีไหนๆ เนื่องจากสีขาวนั้นสื่อถึงความบริสุทธิ์ และยังตีความถึงความหวงใย หรือความรักอันใสสะอาดได้อีกด้วย
สำหรับ ผู้มีฐานะ
ผู้มีฐานะได้แก่ เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้มีตำแหน่งใหญ่โต เชื้อพระวงศ์ หรือดาราผู้มีชื่อเสียงในสังคม เป็นต้น โดยคนกลุ่มนี้เมื่อตอนยังมีชีวิตจะเป็นผู้ที่รายล้อมไปด้วยบุคคลสำคัญต่าง ๆ มากมาย ฉะนั้นประเด็นเรื่องการให้เกียรติจึงเป็นเรื่องที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ และงานของบุคคลเหล่านี้ก็มักเป็นงานใหญ่เสียด้วย พวงหรีดสีม่วง ที่สื่อถึงความหรูหรามีระดับรวมถึงพลังอำนาจ จึงเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมที่เหมาะสม นอกจากสีดำและสีขาว
การแต่งตัวไปงานศพ
หลังจากเตรียมความพร้อมแล้ว ทีนี้ก็มาถึงคิวของการแต่งตัวไปร่วมพิธี โดยหากเป็นงานของผู้ตายที่เป็นเครือญาตินั้น เราก็อาจจะสามารถใส่ชุดสีดำปกติในพิธีที่มีบรรยากาศเป็นกันเองได้ แต่ถ้าหากเป็นงานทางการซึ่งเป็นงานใหญ่มีบุคคลสำคัญมาร่วมงานมาก เราก็ควรที่จะระมัดระวังเรื่องดังต่อไปนี้
ผู้ชาย
- หากสวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นพยามยามหลีกเลี่ยงเสื้อที่มีลวดลายฉูดฉาย เน้นเสื้อที่ดูเรียบจะดีที่สุด
- หากสวมเสื้อสูท ควรเป็น สีดำ สีเทาเข้ม หรือสีกรมท่า ขณะที่เสื้อเชิ้ตภายในก็ควรจะเป็นสีหนึ่งในทั้งสามสีดัวที่กล่าวมาด้วยเช่นกัน
ผู้หญิง
- หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อที่รัดรูปจนเกินไป เพื่อให้เกียรติงาน ซึ่งจะทำให้ดูไม่เหมือนชุดใส่ไปเที่ยว
- หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่เน้นโชว์เนื้อหนัง หรือหากจำเป็นให้หาเสื้อคลุมสวมทับ
- หากสวมกระโปรง ควรสวมตัวที่มีความยาวเกินหัวเข่าขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม หากเป็นความต้องการของตัวผู้เสียชีวิตหรือคนในครอบครัว ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามนั้น อาทิ ความต้องการอยากให้ใส่เสื้อสีฉูดฉาดมาร่วมงาน เพราะไม่ต้องการให้มีบรรยากาศเศร้าโศกจนเกินไป ก็มีให้เห็นบ่อยครั้งเช่นกัน
ช่วงเวลาในการส่งพวงหรีด
ในการร่วมงานคุณควรไปให้ทันพิธีรดน้ำศพ ดังนั้นจำเป็นต้องมีการติดต่อสอบทางระยะเวลากันล่วงหน้า ขณะเดียวกันเมื่อไปถึงแล้ว โอกาสในการส่งมอบก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากมอบในเวลาที่ถูกเหมาะ จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้
ทำไมพวงหรีดดอกไม้สดถึงไม่เหมาะส่งในเวลาเช้าหรือกลางวัน ?
นั่นเพราะแบบดอกไม้สด เป็นสิ่งที่บอบบางต่อสภาพแวดล้อม ยิ่งในวันที่มีอากาศร้อนมากยิ่งเสื่อมสภาพเร็ว รวมไปถึงแมลงก็เป็นอีกปัจจัยที่เข้ามาก่อกวนได้ ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมส่งมอบให้ในเวลาช่วงเย็นขึ้นไป เพราะตั้งไว้ไม่กี่ชั่วโมงก็พร้อมเริ่มงานได้ทันที แต่หากเป็นประเภทอื่น พวงหรีดพัดลมที่ไม่ใช่ดอกไม้สดก็ไม่มีปัญหา อีกทั้งในช่วงเวลากลางวันยังเป็นช่วงที่คนไม่หนาแน่น จึงค่อนข้างสะดวกแก่การส่งมอบให้แก่เจ้าของงาน
มอบพวงหรีดตอนเย็นดีอย่างไร ?
นอกจากภาพอากาศใกล้ค่ำจะช่วยถนอมดอกไม้สดได้ดีกว่าแล้ว ในเวลานี้จะเป็นช่วงที่แขกเริ่มเดินทางมาร่วมงาน เจ้าภาพก็จะมอบหมายให้มีคนมาต้อนรับแขกมากกว่า รวมไปถึงการจัดตั้งและดูแลให้ด้วย
ซึ่งถ้าให้แนะนำก็ควรมอบในช่วงใกล้รดน้ำศพจะดีที่สุด เพราะเป็นช่วงที่บรรดาญาติ ๆ จะเดินทางมาพบปะกันพอดี ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะแสดงความเคารพแก่ผู้ตายร่วมกัน อีกทั้งการส่งมอบในเวลานี้มีโอกาสสูงที่พวงหรีดจะถูกหยิบไปตั้งยังตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย เนื่องจากมาก่อนและมาพร้อมแขกสำคัญนั่นเอง
การปฏิบัติ
เมื่อเดินทางมาถึง อันดับแรกคือการเดินไปแสดงความเสียใจกับเจ้าภาพพร้อมทั้งมอบพวงหรีด จากนั้นจึงไปกราบพระ แล้วทำความเคารพจุดธูปไหว้ร่างผู้เสียชีวิต หลังสั่งลากันแล้วเสร็จ ก็ให้มานั่งยังเก้าอี้ที่มีการจัดวาง ซึ่งในส่วนนี้เป็นส่วนที่ท่านต้องคำนึงให้ดี เพราะในโซนเก้าอี้บริเวณด้านหน้านั้นจะเป็นโซนสำหรับผู้ที่มีความสนิทชิดเชื้อกับผู้ตาย ส่วนในบริเวณกลางถึงท้ายจะมีไว้สำหรับแขกทั่วไป
อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณควรคำนึงไว้เสมอก็คือความสำรวม และการให้เกียรติต่อบุคคลรอบข้าง จงพยายามเลี่ยงการรบกวน อย่างการพูดคุยเสียงดัง เล่นโทรศัพท์มือถือขณะพระสวด หรือแสดงความดีใจเกินขอบเขตุเมื่อได้เจอคนรู้จัก แต่ให้พยายามรักษากิริยาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ถูกจดจำในภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม ในสายตาของผู้คนภายในงาน
By นายล้อหมุน